โครมบุ๊ค อาวุธชิ้นใหม่ของ Google ในการขยายอำนาจไอที

การต่อสู้ระหว่างบริษัทไอทีและคอมพิวเตอร์เพื่อแย่งชิงตลาดด้านซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ ยังคงทวีความดุเดือดอย่างไม่หยุดยั้ง เมื่อ Google ได้กลายมาเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวที่สุดของ Microsoft อีกครั้ง

MediaPad 'แท็บเล็ตตัว'แรกของบริษัท Huwei

หัวเว่ย (Huwei) ประกาศเปิดตัว MediaPad 'แท็บเล็ตตัว'แรกของทางบริษัทที่มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 7 นิ้ว และทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 3.2 ซึ่งการทำงานส่วนใหญ่จะไม่ต่างจาก Android 3.1 มากนัก ยกเว้นการออกแบบให้ทำงานบนแท็บเล็ตจอที่มีขนาดเล็กได้ดีกว่า MediaPad ของ Huawei จะมีหน้าจอ LCD ทำงานในระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว สามารถเล่นวิดีโอ 1080 HD ได้อย่างลื่นไหล พร้อมพอร์ต HDMI โดยภายในใช้ซีพียูดูอัลคอร์ของ Qualcomm ความเร็ว 1.2GHz กล้องหน้า 1.3 ล้านพิกเซล และกล้องหลัง 5 ล้านพิกเซล.

Nokia และ ِApple ตกลงเรื่องสิทธิบัตร

หลังจากเป็นคดีกันอยู่ระยะเวลาหนึ่ง ในที่สุด Apple ก็ปิดการเจรจากับ Nokia แบบต่างฝ่ายต่างพอใจในข้อตกลงที่ลงตัวกัน เป็นที่เเรียบร้อยแล้ว ในวงการ ไอทีโลกไม่เฉพาะแค่สองคู่กรณีนี้เท่านั้นที่มีปัญหาในเรื่องนี้ บริษัทที่ดังๆ หลายบริษัทก็เป็นคู่ กรณีในเรื่องแบบนี้อยู่ในศาลกันมากมายเช่นกัน การฟ้องกันระหว่างบริษัทอันเนื่องมาจากบรรดาสิทธิบัตรต่างๆ ดูจะเป็นเรื่องที่ใช้ได้ผล ทั้งในแง่หารายได้ กับเอาไว้สกัดขาคู่แข่งบ้าง คดีหนึ่งที่เคยเป็นข่าวผ่านมา นั้นคือเรื่องของ Nokia ฟ้อง Apple ข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์สิทธิบัตรเทคโนโลยีการสร้างโทรศัพท์

กูเกิล อินสตั้น เพจ ความรวดเร็วในการค้นหา

รายงานข่าวที่เกียวกับ Google อีกสักชิ้นนะครับ เพราะช่วงนี้ดูท่าจะเร่งเครื่องบริการอย่างเต็มที่ (ล่าสุดรุกหนัก แม้แต่ทีวีในบ้านเรายังมีโฆษณาบราวเซอร์ Chrome โผล่ให้เห็นเป็นระยะๆ) หลังจากเมื่อวานได้แนะนำการค้นหาด้วยเสียงพูด และภาพแล้ว วันนี้ Google ประกาศเปิดตัวบริการ Instant Pages อย่างเป็นทางการ ซึ่งคุณสมบัติใหม่นี้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเปิดเข้าหน้าเว็บจากลิงค์ผลลัพธ์ ได้เร็วขึ้นกว่าเดิมได้แทบจะทันที เมื่อคืนนี้ตามเวลาในบ้านเรา Google ได้ประกาศเปิดตัวคุณสมบัติใหม่ที่เรียกว่า Instant Pages

Nook Touch ความลงตัวของการท่องเว็บบนเครื่องอ่านอีบุ๊ค

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.This theme is Bloggerized by Lasantha Bandara - Premiumbloggertemplates.com.

3.31.2554

10 อันดับสุดยอด Gadget ปี 2010 จาก นิตยสาร Time

การพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อใช้สอยและเพิ่มความสะดวกสบายตลอดจนสร้างความสุขให้กับคนทั่วโลกมีมาอย่างไม่ขาดช่วง สิ่งหนึ่งที่จูงใจนักพัฒนาเหล่านั้นก็คือมูลค่าทางการตลาดที่กว้างไกลที่ดำเนินการโดยบริษัทไอทีที่คอยกระจายสิค้าใหม่ๆออกไปทั่วโลก การกระจายสินค้ายิ่งไกลหมายถึงสินค้าที่ผลิตก็ยิ่งมาก เมื่อขายได้มากขึ้นเท่าไหร่นั่นก็หมายถึงจำนวนเงินที่ไหลมาเทมาก็เพิ่มมากขึ้นเท่านั้น แรงจูงใจต่อมาของนักพัฒานาก็คือ ไม่สามารถหยุดนิ่งอยู่กับที่ได้ นิ่งเมื่อไหร่ตายเมื่อนั้น ดังนั้นแรงจูงใจอันนี้จึงเป็นแรงจูงใจภาคบังคับที่ต้องถีบตัวเองให้ทันสมัย สด และล้ำหน้ากว่าคู่แข่งอยู่เสมอ ต่อไปนี้จะเป็นผลผลิตทางไอทีที่ได้รับการพัฒนาและเข็นลงสู่ตลาดและได้รับการตอบรับจากคนทั่วโลกเป็นอย่างดีไปเรียบร้อยแล้วในปี 2010 สิบอันดับที่ดีที่สุดต่อไปนี้เป็นการจัดอันดับโดยนิตยสาร Time เริ่มจากอันดับสิบก่อนนะครับ



10.Nook Color
สำหรับ e-reader ต้องยกให้ Nook Color จาก Barnes & Noble

9.Kinect
สุดยอดเครื่องเล่นเกมส์แห่งปีจาก Microsoft ที่ได้รับความนิยมแซงหน้า Wii ไปแล้ว สำหรับเครื่องเกมส์แบบ Motion-Controlled

8.Toshiba Libretto Dual-Screen
โน้ตบุ๊กจอคู่ในฝันจากโตชิบา กับหน้าจอทัชสกรีนคู่ขนาด 7 นิ้ว พร้อมคีย์บอร์ดระบบสัมผัส ที่ผลิตขึ้นเนื่องในโอกาสครบรอบ 25 ปี ของโตชิบา กับการเป็นผู้ผลิตโน้ตบุ๊กเครื่องแรกของโลก

7. Apple TV
ด้วย AppleTV ที่จะเปลี่ยนห้องนั่งเล่นและโทรทัศน์ของคุณให้กลายเป็นโรงภาพยนตร์ที่ฉายตาม ใจคุณ คุณสามารถที่จะซื้อหรือเช่าภาพยนตร์ผ่าน AppleTV ได้โดยตรง โดยไม่ต้องใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ รวมไปถึงรายการ TV Show, เพลง และมิวสิควิดีโอ อีกมากมาย เพียงไม่กี่คลิ๊กด้วยรีโมตคอนโทรล

6. iPhone 4
โทรศัพท์มือถือที่หลายคนรอคอยจาก Apple สำหรับ iPhone 4 ทำยอดขายใน 3 วันแรกได้อย่างถล่มทลายถึง 1.7 ล้านเครื่อง ขาดตลาดกันเลยทีเดียว

5. Nexus One
Nexus One นับว่าเป็นมือถือเครื่องแรกและเครื่องเดียวที่ถูกออกแบบพิเศษโดย Google ที่ได้เพิ่มความได้เปรียบของแพลตฟอร์มแอนดรอยด์ให้เหนือกว่าแอนดรอยด์โฟนตัว อื่น ๆ ซึ่ง Google เรียกเจ้าโทรศัพท์เครื่องนี้ว่า “Super Phone”

4. Google TV Via Logitech
สำหรับ Gadget ที่สามารถนำคุณไปสัมผัสกับ GoogleTV ได้ดีที่สุด คงต้องยกให้ Logitech Revue Box

3. MacBook Air 11″
ด้วยความบางเฉียบกว่าใคร และมีน้ำหนักที่น้อยประมาณ 1 กิโลกรัม รวมถึงยังมีประสิทธิภาพที่น่าจับตามอง ทำให้ Macbook Air รั้ง อันดับ 3 ในฐานะโน้ตบุ๊กที่ฮอตที่สุด

2. Samsung Galaxy S
สำหรับปี 2010 นั้น นับว่าเป็นปีของโทรศัพท์แอนดรอยด์อย่างแท้จริง โดยมีสมาร์ทโฟนกว่า 9 ล้านเครื่องที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์(รายงานจาก Canalys) และ Samsung Galaxy S ก็นับว่าเป็นแอนดรอยด์โฟนหมายเลขหนึ่งของปี 2010
1. iPadอันดับหนึ่งคงหนีไม่พ้น iPad ถึงแม้ว่า iPad จะไม่ใช่แท็บเล็ตเครื่องแรกของโลก แต่ก็สามารถประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว โดยสามารถจำหน่ายได้ถึง 3 ล้านเครื่องในเดือนแรกที่ทำการวางจำหน่าย

ที่มา Notebook888 , Time

3.30.2554

ดู Note Book ให้เป็นแล้วค่อยจ่าย



สำหรับใครที่ต้องการโน๊ตบุ๊กสักเครื่อง การดูสเปกได้นั้นเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากยกเว้นจะให้เพื่อนๆที่ดูเป็นคนช่วย) เพราะหมายถึงการที่ได้เครื่องตรงความต้องการใช้งานของเรามากที่สุด ต่องบประมาณที่จำกัด บางท่านอาจจะต้องการใช้แค่พิมพ์งานเล่นเน็ต แต่ดูสเปกไม่เข้าใจอาจจะไปซื้อเครื่องรุ่นใหม่ที่กินตัวไป เพราะเห็นแค่เพียงว่าราคาสูงน่าจะใช้งานเราได้แน่ๆ หรือบางท่านต้องการเครื่องที่มีพอร์ตต่างๆตามต้องการ  HDMI   สำหรับ ต่อจอ LCD TV หรือ E-Sata สำหรับต่อฮาร์ดดิสค์ความเร็วสูง ถ้าเราดูสเปกผิดเพียงนิดเดียวก็อาจจะทำให้เราซื้อเครื่องมาผิดจุดประสงค์การใช้งานได้เพราะฉะนั้นการดู สเปกแบบคร่าวๆพอเข้าใจอาจจะไม่ต้องถึงขั้นรู้เทคโนโลยีอะไรมากมายเพียงแต่สามารถจับจุดได้ แค่นี้ก็สบายหายห่วงแล้วออกตัวก่อนนะครับว่าในบทความนี้จะแนะนำแค่คราวๆไม่ถึงกับลงลึกไปว่า งานนี้ควรจะใช้ซีพียูอะไร เพียงแต่แนะนำพอรู้ถึงกลุ่มต่างๆเท่านั้นนะครับ ไปดูทีละส่วนกันเลย 

CPU
คือหน่วยประมวลผลเปรียบเหมือนสมองกลของคอมพิวเตอร์ บางท่านอาจจะคิดว่ามันเป็นกล่องสี่เหลี่ยมรึเปล่า แต่ไม่ใช่อย่างนั้น CPU คือ Chip ขนาดประมาณ 1นิ้ว x 1 นิ้ว ใหญ่ว่า หรือ เล็กกว่า (แล้วแต่ Model) โดยในโน๊ตบุ๊กนั้นแม้จะไม่ค่อยนิยมเปลี่ยนซีพียูเองเท่าไรเพราะ หาซื้อยาก มีราคาสูง และอาจจะกระทบกับการรับประกันได้ แต่ก็มีหลายๆท่าน ลองเปลี่ยนดูมาแล้วนะครับ

ปัจจุบันมีผู้ผลิต CPU Notebook รายใหญ่อยู่แค่ 2 บริษัท คือ AMD และ Intel ซึ่งส่วนมาก Intel จะครองตลาดซะมากกว่า โดยจะแบ่งได้หลายระดับที่นิยมและมีขายในตอนนี้ทั้ง
  • Intel Atom นิยมใช้ใน Netbook เพราะขนาดที่เล็กและราคาที่ไม่แพงรองรับการใช้งานเป็นอย่างดี ในการใช้งานเบาๆ
  • Pentium Dual Core ซีพียู 2 Core ระดับเริ่มต้น มีประสิทธิภาพอยู่ในระดับสูงแต่ไม่สูงเท่า Core2Duo รองรับการทำงานที่หนักขึ้นมาจาก Netbook
  • Core 2 Duo ซีพียู 2 Core ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในปัจจุบัน มีประสิทธิภาพที่อยู่ในระดับดี สามารถใช้งานหนักร่วมไปถึงเล่นเกมส์ได้ดีพอสมควร ตามระดับความเร็วของซีพียู โดยจะแบ่งเป็น 2 Series ทั้ง T Series ในแพลตฟอร์มเซนทริโน 1 และ P Series ในแพลตฟอร์มเซนทริโน 2
  • Core 2 Quad ซีพียูในระดับ 4 Core สามารถประมวลผลหนังๆเล่นเกมส์ได้สบาย แต่ด้วยราคาที่ยังสูงอยู่จึงนิยมใช้ในเครื่องที่มีราคาสูงๆทั้งนั้น
Chipset
คือส่วนที่ค่อยควบคุม อุปกรณ์แทบทั้งหมดของเครื่อง หรือเรียกได้ว่าเป็นตัวประสานงานต่างๆขอบอุปกรณ์บนเมนบอร์ดก็ว่าได้ ตั้งแต่ซีพียู แรม …. ไปจนถึงพอร์ตต่างๆ ล้วนแต่พึ่งพา ชิปเซ็ตทั้งนั้น มีผู้ผลิตชิปเซ็ตก็มีทั้ง Intel ซึ่งจัดได้ว่าเป็นผู้ผลิตชิปเซ็ตรายใหญ่ที่สุด โดยจะผลิตชิปเซ็ตมารองรับซีพียูของตนเองเป็นส่วนใหญ่อยู่แล้ว พอซีพียูรุ่นใหม่ออกก็จะผลิตชิปเซ็ตออกมารองรับทันทีทันใด แน่นอนว่าซีพียูเป็นของ Intel เกือบทั้งหมด ชิปเซตเอง Intel ก็กินส่วนแบ่งเกือบทั้งหมด แต่ก็มียี่ห้ออื่นๆที่หลุดๆมาบ้างทั้ง AMD ที่เหมือนๆกับ intel คือผลิตชิปเซ็ตให้ซีพียูตนเองเป็นหลัก นอกเหนือจากนั้นก็มีทั้ง NVIDIA, SIS, VIA
Graphic Chip

คือหน่วยที่ประมวลผลด้านภาพออกมาแสดงทางจอ มีด้วยกัน 2 ประเภทคือ Onboard ที่จะรวมภาคประมวลผลภาพของการจอลงในชิปเซ็ตของเครื่องด้วย และแน่นอนว่ายังคงเป็นของ Intel เสียส่วนใหญ่ ความสามารถนั้นก็ถือว่าเป็นในระดับล่าง ใช้งานทั่วไป ดูหนัง เล่นเกมส์ที่ความละเอียดไม่สูงมากได้บ้างอีกชนิดหนึ่งคือแยกชิปเซ็ตแยกจากชิปเซ็ตหลัก มีทั้งแบบเป็นการ์ด และแบบที่เป็นชิปเซ็ตฝังบนเมนบอร์ดเลย โดยมีบริษัทผู้ผลิตรายใหญ่ 2 ราย คือ ATI และ NVIDIA ความสามารถต่างๆ นาๆ นั้นก็จะขึ้นอยู่กับราคา ยิ่งแพงการประมวลผลด้านภาพก็จะยิ่งดี ยิ่งเล่นเกมส์ ดูหนัง Hi-Def ได้อย่างมีประสิทธิภาพรุ่นยอดฮิตในไทยก็ได้แก่
NVIDIA
  • 9300M GS (ระดับล่าง พอเล่นเกมส์ได้นิดหน่อย)
  • 9600M GT (ระดับกลาง สามารถเล่นเกมส์ดูหนังได้ดีในระดับหนึ่งเลย)
  • ส่วนรุ่นใหญ่กว่านั้นก็มี แต่ไม่ค่อยเป็นที่นิยมเท่าไรเพราะมีราคาสูงมากเกินไป

ATI
  • Series 3xxx เป็นรุ่นที่ไม่เก่ามากยังมีขายอยู่ เรียงลำดับตามประสิทธิภาพตั้งแต่ล่างสุดไปบนสุดได้แก่ 3410 > 3450 > 3470 > 3650 > 3670
  • Series 4xxx เป็นรุ่นใหม่ที่เพิ่งออกมา มีประสิทธิภาพที่ดีทีเดียวเลย และคาดว่าจะมีอีกหลายๆรุ่นตามมา ได้แก่ 4570 > 4650
Graphic Chip
Display
คือส่วนที่เป็นจอภาพ โดยจอภาพนั้น จะมีขนาดเล็กๆตั้งแต่ 7 นิ้ว ไปจนถึง ใหญ่ๆ 18 – 20 นิ้วกันเลยทีเดียว ตามความต้องการเช่นใครต้องการพกพาสะดวกก็ดูรุ่นที่จอเล็กๆหน่อย แต่ถ้าใครซื้อไปเป็นเครื่อง PC สำหรับดูหนังเล่นเกมส์แบบว่าไม่ค่อยได้ยกไปไหนมาไหน จะซื้อรุ่นที่จอใหญ่ๆก็ตามชอบเลยครับ และอีกสิ่งที่เป็นข้อสังเกตุคือ Resolution ยิ่งมีค่าสูงจอภาพก็จะมีความละเอียดมาก เช่น จอที่ไว้ดูหนัง Hi-Def โดยเฉพาะ จะอยู่ที่ 1920×1080 ซึ่งจะพบได้ใน Notebook ระดับ Hi-End ราคาสูง
Memory
เป็นหน่วยความจำชั่วคราวสำหรับเป็นที่พักข้อมูลยิ่งมีความจุสูงก็จะยิ่งทำให้ Notebook สามารถทำงานได้ลื่นไหลมากขึ้น และความเร็วของแรมเช่น 667 800 MHz นั้นยิ่งมากก็จะยิ่งทำให้เครื่องทำงานได้ไวสอดคล้องกับซีพียูมากขึ้น ส่วนมากของโน๊ตบุ๊กในปัจจุบันใช้ RAM DDR2 ที่มีราคาถูก แต่ล่าสุดก็ได้มี RAM DDR3 แล้วซึ่งจะทำงานเร็วกว่าเดิมถึง 2 เท่า แต่ยังไม่นิยมเพราะยังมีราคาแพงกว่า DDR2 อีกทั้งชิบเซตที่รองรับก็ยังมาน้อย ตอนนี้ที่เห็นชัดเจนก็แค่ชิปเซ็ตของอินเทลเซนทริโน 2 เท่านั้น โดยการเลือกใช้นั้นด้วยราคาแรมในปัจจุบันที่ถูกลงมามาก แรมก็ไม่ควรต่ำกว่า 2 GB เป็นอย่างน้อย เพราะในระดับนี้จะทำอะไร เล่นเกมส์ ดูหนัง ฟังเพลง ทำงาน ในเครื่องสามารถใช้งานได้สบายๆแล้ว
Hard Disk
เป็นหน่วยความจำหลักที่จะบรรจุซอฟแวร์ต่างๆไว้ในนี้ ถ้า Hard Disk มีความจุมากก็จะทำให้มีพื้นที่ในการเก็บข้อมูลต่างๆเช่น หนัง เพลง มาก จนไม่ต้องกลัวว่าจะเต็มๆ ในเครื่องปัจจุบันที่ขายกันทั่วๆไปต่ำๆก็จะมีมาให้ 160 GB เพียงพอสำหรับเก็บข้อมูลได้ระดับหนึ่ง แต่ถ้าเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ๆเป็นประจำ ก็ไม่ควรน้อยกว่า 250 GB อีกทั้งยังมาฮาร์ดดิสค์อีกประเภทที่กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นคือชนิด Sloid-State Drives (SSD) เป็นฮาร์ดดิสค์ที่ใช้ IC Chip มาบันทึกข้อมูลแทน แบบจานหมุนในฮาร์ดดิสค์ทั่วไป ซึ่งทั้งเร็วและมีความคงทนสูงกว่าฮาร์ดดิสค์แบบธรรมดาที่เราใช้กันอยู่ แต่ก็มีราคาสูงตามไปด้วย เริ่มนิยมใช้กันแพร่หลายมากขึ้นตั้งแต่ความจุน้อยๆเช่น 8 GB ใน Aspire ONE ไปจนถึงเครื่องระกับ Hi End เลยทีเดียว
Drive
มีหลายชนิดมากมายเลยครับ ที่นิยมนำมาลง Notebook มากที่สุดตอนนี้ก็คงเป็น
DVD Writer (Dual Layer Support) ที่สามารถ อ่าน-เขียนแผ่น DVD ก็จะมีตั้งแต่เขียนได้ 8X 16X 20X ครับ ส่วน Drive ที่มาแรงคงหนีไม่พ้น Blu-Ray ที่มีขนาดบรรจุถึง 27 G อัตราการโอนถ่ายข้อมูลเร็วถึง 36 Mbps แต่ติดที่ยังราคาแพงอยู่ แต่ในอนาคตไดร์ฟและแผ่นแบบ Blu-Ray จะเข้ามาเป็นมาตฐานใหม่แทน DVD ในไม่ช้านี้แน่นอน






3.28.2554

สงครามเบราเซอร์


เว็บเบราเซอร์(Web Browser)หรือ"โปรแกรมค้นดูเว็บ" พูดง่ายๆก็คือโปรแกรมเอาไว้ท่องเว็บ พูดให้ง่ายกว่านี้อีกก็คือโปรแกรมที่คุณเปิดอยู่ตอนนี้....เค้าเรียกในภาษาอังกฤษว่า Web Browser ซึงเป็นซอฟแวร์ที่จำเป็นสำหรับเทคโนโลยีของโลกอินเตอร์เน็ตนั่นเอง ปัจจุบันผู้ผูกขาดตลาดส่วนนี้คือ Internet Explorer ที่ติดมากับWindows เฉพาะประเทศไทยประเทศเดียวก็ปาเข้าไปร่วม 80-90%แล้วซึ่งหลายคนก็เข้าใจผิดไปอีกว่าในโลกนี้มีแค่ Internet Explorer เจ้าเดียวเท่านั้น ที่สามารถท่องเน็ตได้ แท้ทีจริงแล้วมีอีกบานหทัยที่ดังๆก็คือ  Mozilla Firefox, Opera, Safari Chromeฯลฯ การปล่อยเบราเซอร์เข้าสู่โลกอินเตอร์เน็ตของมอสิลาไฟฟ๊อกซ์ ในวันที่ 22 มีนาคม 2544 ที่ผ่านมานั้นทำให้เกิดการพูดถึงมากที่สุดหลังจากที่ chrome ได้รับส่วนแบ่งทางการตลาดมากมายจนทำให้ Fire fox ต้องเข้าสู่ยุคตกต่ำเพราะโดนขนาบข้างทั้งสองเบราเซอร์ชื่อดังของโลกที่สดกว่าโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เบราเซอร์อย่าง Chrome ซึ่งสร้างปรากฏการณ์ใหม่ที่บางเบา รวดเร็ว และรูปแบบง่ายๆ จน IE8(Internet explorer8) ต้องตกขอบไปชั่วขณะหนึ่ง
Fire Fox ได้เปลี่ยนรูปแบบให้บางเบา เปรียว  รวดเร็วขึ้น แถมด้วยความปลอดภัยสูงสุดและที่พลาดไม่ได้ก็คือความเป็น Fire Fox ที่พร้อมสำหรับการใส่ Plug in Online ที่ทุกคนชอบใช้ในการท่องเน็ตเหมือนเดิม เวอร์ชั่น 4 ของ Fire Fox ที่โลดแล่นอยู่บนไซเบอร์ขณะนี้ทำให้เกิดสงครามเบราเซอร์ยุคใหม่ขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้  เพราะไม่กี่วันคล้อยหลัง Internet Explorer 9 หรือ IE9 ต้องเปิดตัวโลดแล่นเข้าสู่โลกไซเบอร์ เช่นเดียวกับ Fire Fox. 4 ที่เปิดตัวก่อนหน้านั้น
Fire fox 4  นั้น ใช้ได้ดีกับ windows, Linux และ Mac “จริงๆแล้ว IE9 นั้นมีส่วนการทำงานที่คล้ายคลึง กับ Chrome มากกว่า Fire Fox  ซึ่งจุดนี้ทำให้เราสามารถเรียกส่วนแบ่งการตลาด   กลับมามากขึ้นหลังจากที่เราต้องเสียมันไปในไม่กี่ปีที่ผ่านมา”  ทีมงานของ Fire Fox  กล่าวในวันเปิดตัว

                      ดาว์นโหลด Fire Fox4 ที่นี   ดาว์นโหลด IE9 ที่นี   ดาว์นโหลด Chrome ที่นี่
 




3.27.2554

MS WebMatrix เครื่องมือสร้างเว็บ ฟรี!!!

WebMatrix เป็นเครื่องมือพัฒนาเว็บไซต์จาก Microsoft ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้สามารถเตรียมความพร้อมในการพัฒนาเว็บไซต์ เพื่อเผยแพร่ข้อมูล หรือแม้แต่อีคอมเมิร์ซได้อย่างง่ายดาย โดยมันจะช่วยผู้ใช้ติดตั้งระบบเว็บเซิร์ฟเวอร์ ฐานข้อมูล ตลอดจนเครื่องมือในการพัฒนาโค้ดโปรแกรมได้ ซึ่งคุณผู้อ่านสามารถดาวน์โหลด และใช้งาน WebMatrix ได้ฟรี!!! อย่างไรก็ดี WebMatrix ถือได้ว่าเป็นเครื่องมือพัฒนาเว็บไซต์แจกฟรีที่ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ โดยเฉพาะผู้พัฒนาเว็บไซต์มือใหม่จะต้องชอบอย่างแน่นอน

WebMatrix มาพร้อมกับเครื่องมือในการพัฒนา และเผยแพร่เว็บไซต์บนแพลตฟอร์ม Open Source ที่มีให้เลือกถึง 36 รายการ อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้สร้างเว็บไซต์จากภาษาโปรแกรมพื้นฐานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น HTML, CSS, XML, JavaScript, ASP.NET เป็นต้น ซึ่งโปรแกรมแก้ไขโค้ดคำสั่งที่มาด้วยกันจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถพัฒนาโค้ดเว็บได้ภายในอึดใจ ผู้ใช้มือใหม่ไม่ต้องกังวลว่าจะเริ่มต้นพัฒนาเว็บไซต์อย่างไร เพียงแค่เลือกแพลตฟอร์มที่ต้องการจาก Web Gallery หลังจากนั้นระบบจะดาวน์โหลด และติดตั้งระบบให้พร้อมพัฒนาได้ภายในอึดใจ นอกจากจะช่วยให้การพัฒนาเว็บไซต์สามารถทำได้โดยง่ายแล้ว มันยังมีคำแนะนำตลอดจนรายงานเกี่ยวกับการทำ SEO ให้กับเว็บไซต์ รวมถึงการอัพโหลดโค้ดไปบนเซิร์ฟเวอร์ทีใช้เผยแพร่เว็บไซต์ด้วยเครื่องมือยอดฮิตอย่าง FTP ได้อีกด้วย สำหรับคุณผู้อ่านที่สนใจ WebMatrix สามารถดาวน์โหลดได้ที่ WebMatrix


Create your website















เริ่มต้นสร้างเว็บไซต์ง่ายๆ เพียงดาวน์โหลดแพลตฟอร์ม MicrosoftWebMatrix และติดตั้งโปรแกรมภายในเวลาไม่ถึง 5 นาที เพียงเท่านี้คุณสามารถใช้งาน web application เวอร์ชันล่าสุด ได้อย่างง่ายดายทั้งWordPressJoomla!DotNetNuke และ Orchard.เป็นต้น
Customize your website

ทันทีที่คุณใช้ WebMatrix คุณจะพบทันทีว่ามีเครื่องมือทั้งหมดที่จำเป็นต่อการทำ single unified interface โบกมือลาวิธียุ่งยากเดิมๆที่ต้องสลับไปมาระหว่างApplication Programต่างๆ วิธีทำงานด้วยWebMatrixนั้น เพียงคลิกเดียวคุณก็สามารถแก้ไขไฟล์ จัดการฐานข้อมูล และปรับเปลี่ยนการตั้งค่าเซิร์ฟเวอร์ได้อย่างง่ายดาย
Publish your website WebMatrix มีวิธีการPublishเว็บไซต์ของคุณขึ้นบนอินเตอร์เน็ตอย่างน่าทึ่ง ในโฮสต์ติ้งแกลลอรี่ของWebMatrix คุณสามารถเลือกใช้Hosting  Provider มืออาชีพที่เหมาะสมและตอบโจทย์การใช้งานเว็บไซต์อย่างราบรื่น และคุณยังสามารถPublishเว็บไซต์ได้โดยตรงจาก WebMatrix.



บิงค์(Bing) ขยายฟีเจอร์การค้นหาบนเครือข่ายสังคม


แปลจาก
News
Bing extends social search features
By Juan Carlos Perez/ Computer World
March 25, 2011 04:31 PM ET

บริษัทไมโครซอฟได้ขยายศักยภาพและความสามารถของบิงค์ในการค้นหาบนไซต์เครือข่ายสังคม โดยสามารถแสดงความเป็นปัจจุบันของข้อความทวิตเตอร์ในหมวดของข่าวและแชร์หมวดบันเทิงของบิงค์บนเฟซบุคได้ด้วย
ศักยภาพใหม่นี้สร้างบนลิงค์เดิมของบิงค์ทีมีทั้งต่อทวิตเตอร์และเฟซบุคอยู่แล้วเพียงแต่เพิ่มความสำคัญของช่องเครื่องมือค้นหากับเครื่อข่ายไซต์สังคมขึ้นมาเท่านั้น
บิงค์เครือข่ายสังคมนั้นมีภาคสาธารณะที่สนใจการค้นหาผ่านการโพสต์และการอัปเดตสถานะจากทวิตเตอร์และเฟซบุคอยู่แล้ว ต่อจากนี้ไปเนื้อหา(content) ของทวิตเตอร์ก็สามารถพบหาในผลการค้นหาของบิงค์ในภาคของข่าวได้เช่นกัน


การค้นหาข่าวและดูหัวข้อการทวิตของผู้ใช้อย่างรวดเร็ว  Betsy Aoki ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายโปรแกรมของบิงค์กล่าว ขณะเดียวกันในส่วนการโพสต์ข้อความของบล็อกนั้น บิงค์จะแสดงกล่องของเฟซบุคซึ่งสามารถลงชื่อเข้าใช้งานและอัปเดตสถานะได้โดยไม่ต้องออกจากหน้าการทำงานของบิงค์แต่อย่างใด

ขณะนี้ฟีเจอร์ตัวนี้สามารถใช้บริการได้ที่หน้าภาพรวมของบิงค์หมวดบันเทิงเท่านั้น      ซึ่งเป็นหน้า
ที่เกี่ยวกับการนำเสนอบทความสั้นๆเกี่ยวกับภาพยนตร์ นักแสดง นักร้องและอื่นๆที่เกี่ยวกับวงการบันเทิงทั้งหมด
ไม่ว่าจะเป็นหนัง วีดีโอเกมส์ หรือแม้กระทั่งนักร้องก็สามารถแชร์ความคิดเห็นได้ภายในคลิกเดียว Aoki กล่าว

กูเกิลก็ทำงานหนักเช่นกันในการที่จะใส่เครือข่ายสังคมเข้าไปในบางสาระบบของ ครื่องมือค้นหาของเขา เมื่อเร็วๆนี้กูเกิลได้ทำการบูรณะบริการการค้นหาที่เกี่ยวกับเครือข่ายสังคมขึ้นโดยยกระดับการเสนอผลการค้นหาจากล่างสุดของหน้ามาอยู่ในหน้าหลักเหมือนกับการบริการการค้นหาส่วนอื่นๆของบริษัท


3.22.2554

Google จุดพลุเสิร์ชอัจฉริยะ Semantic Search

I

Google (Google) ยักษ์ใหญ่เสิร์ชเอนจิ้นเริ่มให้บริการค้นหาข้อมูลอัจฉริยะหรือ Semantic Search แล้ว ปรับให้เอนจิ้นของGoogleเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างคำได้ แถมเพิ่มจำนวนบรรทัดแสดงตัวอย่างบทความในลิงก์ที่พบ ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้ทราบรายละเอียดในแต่ละลิงก์ให้มากขึ้นก่อนตัดสินใจคลิก
ผลของการปรับปรุงครั้งนี้ คือผู้ใช้Googleจะสามารถพบข้อมูลอื่นที่เป็นเรื่องเดียวกับคีย์เวิร์ดแม้จะ เป็นคำคนละคำกัน เช่น หากสืบค้นด้วยคีย์เวิร์ด "principles of physics (หลักการฟิสิกซ์)" Googleจะโชว์ลิงก์ที่มีคำว่า "BigBang (การระเบิดครั้งใหญ่)" หรือ "Special Relativity (ทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษ)" ให้ด้วยเพราะเชื่อว่าลิงก์ที่มีคำเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้สืบค้น ต่างจากอดีตที่จะแสดงลิงก์เพจที่มีคำตรงกับคีย์เวิร์ดเท่านั้น
Semantic Search เป็นคำที่ชาวไอทีใช้เรียกความสามารถในการสืบค้นตามแนวคิดหรือความสัมพันธ์ ไม่ใช่การสืบค้นเพื่อหาเว็บเพจที่มีตัวอักษรตรงกับคีย์เวิร์ดเช่นในอดีต แต่เป็นการสืบค้นเว็บเพจที่มีคำซึ่งสัมพันธ์กับคีย์เวิร์ด แน่นอนว่าบริษัทเสิร์ชเอนจิ้นทั่วโลกมีเป้าหมายพัฒนาให้เอนจิ้นของตัวเอง สามารถทำ Semantic Search ได้ และGoogleเป็นรายล่าสุดที่เริ่มนำมาให้บริการจริงแล้วในขณะนี้
ตามบทความที่หัวหน้าทีมเทคนิคเพื่อพัฒนาคุณภาพการสืบค้นของGoogleนาม Ori Allon เขียนในเว็บล็อกGoogleเกี่ยวกับการปรับปรุงครั้งนี้ ไม่มีการใช้คำว่า Semantic Search แต่ระบุว่าเป็นการนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้เพื่อให้ระบบของGoogleเข้าใจความต้อง การและแนวคิดที่ผู้ใช้ต้องการสืบค้นได้ดีขึ้น
นอก จาก Semantic Search Googleยังเพิ่มบรรทัดแสดงคำอธิบายลิงก์ผลการเสิร์ชเป็น 4 บรรทัด จากเดิมที่เคยแสดงเป็น 2 บรรทัด โดยจำนวนบรรทัดที่เพิ่มขึ้นช่วยให้ผู้ใช้ทราบรายละเอียดในแต่ละลิงก์ได้มาก ขึ้นก่อนตัดสินใจคลิก และยังทำให้ผู้ใช้สามารถใส่คีย์เวิร์ดสำหรับสืบค้นได้มากเท่าที่ต้องการ
สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการสะท้อนภาพความน่าสนใจใน semantic search ที่ขยายวงกว้างยิ่งขึ้น โดยGoogleให้บริการ Semantic Search รองรับ 37 ภาษา (ไม่มีภาษาไทย) ได้แก่ภาษารัสเซีย ภาษาอิตาลี ภาษาอังกฤษ เป็นต
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ของGoogleถือว่าช้ากว่ารายอื่น โดยเสิร์ชเอนจิ้นอย่าง Ask.com นั้นเริ่มเปิดให้บริการ semantic search ไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ขณะที่คู่แข่งอย่างไมโครซอฟท์ออกมายืนยันว่ากำลังทดสอบ Kumo.com ที่เป็นเอนจิ้น semantic search ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถได้รับความนิยมจากตลาดได้มากกว่า Live Search ที่ไมโครซอฟท์ให้บริการอยู่ในขณะนี้
Google ทดสอบระบบโฆษณาใหม่ อิงตามความสนใจไม่ใช่คีย์เวิร์ด

Google เปิดทดสอบระบบโฆษณาออนไลน์ใหม่ในชื่อ"interest-based advertising" หรือระบบโฆษณาออนไลน์ที่อิงตามความสนใจของผู้บริโภค เปิดฉากทดสอบกับนานาพันธมิตร AdWords และ AdSense ระบบโฆษณาดั้งเดิมของGoogleที่อิงกับคีย์เวิร์ดหรือคำสืบค้นซึ่งผู้ใช้ป้อน เข้าสู่คอมพิวเตอร์เพื่อค้นหาข้อมูลเป็นหลัก โดยจะทดสอบกับเว็บไซต์แชร์ไฟล์วีดีโอชื่อดังที่Googleซื้อมาอย่างยูทูบ (YouTube) ด้วย
ระบบโฆษณาใหม่ของGoogleถูกออกแบบมาเพื่อบันทึกความสนใจของนักท่อง เน็ตโดยอ้างอิงจากประวัติการใช้งานเว็บไซต์และการค้นหาข้อมูล จากนั้นจะนำเสนอ"โฆษณาสั่งตัด"ที่ระบบเชื่อว่าเหมาะสมกับผู้ใช้โดยไม่คำนึง ถึงเนื้อหาเว็บไซต์ที่ถูกเปิดใช้งานในขณะนั้น ที่สำคัญ ผู้ใช้จะมีสิทธิ์ในการเพิ่มหรือลดประเภทโฆษณาสำหรับตัวเองได้ด้วย
สิ่ง ที่เกิดขึ้นคือ ระบบนี้จะทำให้โฆษณาขายรองเท้าปรากฎขึ้นแม้นักท่องเน็ตกำลังสืบค้นรายการ อาหาร โฆษณารองเท้าที่ถูกแสดงแก่ผู้ใช้ไม่มีความเกี่ยวพันกับคำสืบค้นชื่ออาหารที่ ถูกใช้งานในขณะนั้น หรือมีเนื้อหาสอดคล้องกับเนื้อความเว็บไซต์ที่ถูกเปิดใช้งานอยู่ แต่จะเกี่ยวกับประวัติการสืบค้นในอดีตที่ผู้ใช้เคยให้ความสำคัญมาก่อนแทน ต่างจากแนวคิดดั้งเดิมของ AdWords และ AdSense ที่จะเน้นเสนอโฆษณาที่มีเนื้อหาสอดคล้องกับคำสืบค้นหรือหน้าเว็บเพจในขณะ นั้น
"การโฆษณาที่อิงจากคีย์เวิร์ดหรือคำสืบค้นนั้นประสบความสำเร็จมาตลอด เพราะช่วยสร้างประโยชน์มหาศาลให้กับผู้ใช้ นักการตลาด และสื่อผู้ผลิตคอนเทนท์ ที่ได้รับการตอบโจทย์ครบทุกคน Googleเชื่อว่าโฆษณาที่อิงจากความสนใจของผู้ใช้งาน ก็จะทำให้เกิดวงจรความสำเร็จในลํกษณะเดียวกัน แต่จะช่วยให้ผู้ใช้ได้รับโฆษณาที่ตรงใจมากขึ้น ส่งให้รายรับของนักการตลาดและสื่อมีมูลค่าเพิ่มขึ้น" ตามเนื้อความแถลงการณ์ของGoogle
Susan Wojcicki ประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์ของGoogleชี้แจงว่า การทดสอบระบบโฆษณาใหม่ของGoogleจะเริ่มบนเว็บไซต์ยูทูบและพันธมิตรหลายราย โดยจะทดลองให้นักการตลาดกำหนดกลุ่มเป้าหมายจากประเภทความสนใจหลักๆเช่น กีฬา การจัดสวน รถยนต์ หรือสัตว์เลี้ยงก่อนในเบื้องต้น ยังไม่มีรายงานว่าGoogleกำหนดให้การทดสอบเสร็จสิ้นเมื่อไรในขณะนี้
 Wojcicki ยอมรับว่าระบบโฆษณาใหม่นี้จะเพิ่มความกังวลเกี่ยวกับสิทธิความเป็นส่วนตัว ของผู้บริโภค เช่นเดียวกับที่คู่แข่งในตลาดโฆษณาออนไลน์รายอื่นเคยประสบชะตากรรมเดียวกัน มาก่อน จุดนี้Googleแก้ปัญหาด้วยการเปิดทางให้นักท่องเน็ตทุกคนสามารถเข้ามาชม ลบ หรือเพิ่มหมวดหมู่ความสนใจซึ่งระบบของกุเกิลวิเคราะห์ไว้ได้ผ่านเว็บเบราว์ เซอร์ รวมถึงสามารถให้ข้อมูลเพิ่มว่าต้องการโฆษณาลักษณะใดบนเว็บไซต์ยูทูบและ พันธมิตรของGoogle โดยข้อมูลเหล่านี้จะเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ระบบนำไปประมวลผล ไม่ใช่ทั้งหม 
ที่ สำคัญ Googleได้สงวนสิทธิ์ในการเพิ่มหมวดหมู่ความสนใจบางหมวด โดยเฉพาะหมวดที่มีความเสี่ยงสูงเช่น หมวดสุขภาพ หรือหมวดที่ประกอบด้วยสินค้าล่อใจเยาวชน และยังให้สิทธิ์นักท่องเน็ตสามารถสั่ง Opt Out หรือปิดความสามารถไม่ให้ระบบติดตามประวัติการท่องเว็บจากไฟล์คุ้กกี้ (cookie) ได้ คาดว่าจะไม่ทำให้ประเด็นกล่าวหาว่าGoogleละเมิดสิทธิ์ความเป็นส่วนตัวของผู้ บริโภคเกิดขึ้นในอนาคต

 Company Related Links  :Google.com
tags Google    

ห่วงใยแบตเตอรี่กันหน่อยนะครับ

ผู้ใช้โน้ตบุ๊กเรื่องส่วนใหญ่ให้ความใส่ใจกับ "แบตเตอรี่" น้อยกมาก ยกเว้นเวลาทีมีข่าวว่า มันร้อนจนลุกไหม้ หรือมีประกาศเรียกคืน ถึงจะตื่นเต้นให้ความสนใจพวกมันทีหนึ่ง อย่างมากก็อาจจะตั้งค่าการใช้พลังงานของแบตฯ (นึกแล้วน่าน้อยใจเหมือนกันนะเนี่ย) แต่สำหรับ Battery Care ฟรีแวร์เล็กๆ ตัวนี้จะช่วยดูแลสุขภาพของแบตเตอรี่ให้แทนคุณได้
Battery Care จะให้ความสนใจห่วงใยแบตเตอรี่ในโน้ตบุ๊กของคุณมากเป็นพิเศษ โดยมันสามารถตอบคำถามในสิ่งทีคุณนึกไม่ถึง ตัวโปรแกรมจะคอยตรวจสอบรอบเวลาที่ใช้ในการชาร์จ และดิสชาร์จแบตเตอรี่ตลอดเวลา ก่อนที่จะใช้อัลกอริธีมในการประเมินจากข้อมูลที่เก็บบันทึกไว้ว่า ถึงเวลาหรือยัง? ที่คุณควรจะดิสชาร์จแบตฯให้้หมดโดยสมบูรณ์สักที ซึ่งการทำเช่นนี้จะช่วยยืดอายุ หรือลดอาการเสื่อมของแบตฯได้
ได้เวลาดิสชาร์จ (discharge) แบตเตอรี่โดยสมบูรณ์ เพื่อยืดอายุแบตฯ แล้ว
และเนื่องจากโปรแกรมสามารถเรียนรู้ประสิทธิภาพการทำงานของแบตเตอรี่ ทำให้มันคำนวณเวลาที่เหลือสำหรับการใช้งานต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ อีกทั้งยังแสดงพลังงานที่เหลือในแบตเตอรี่ ตลอดจนยี่้ห้อผู้ผลิตให้ทราบได้อีกด้วย นอกจากนี้ โปรแกรมสามารถช่วยปรับแต่งค่าการใช้พลังงานของระบบปฏิบัติการอย่างเช่น Aero graphic ของ Vista และบริการอื่นๆ ที่กินไฟมากๆ ซึ่งสามารถใช้แทนยูทิลิตี้ Power Management ได้ อ้อ...โปรแกรมสามารถแสดงผลอุณหภูมิของ CPU ได้อีกด้วย






Source:

Share

Twitter Delicious Facebook Digg Stumbleupon Favorites More